แบตเตอรี่รถยนต์ ถือเป็นอุปกรณ์ของรถยนต์ในปัจจุบันที่จะขาดไม่ได้เลย เนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์มีหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากไดร์ชาร์จปั่นไฟ ก่อนที่แบตเตอรี่จะจ่ายไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องยนต์นั้นเอง
ในท้องตลาดปัจจุบัน สามารถแบ่งแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีจำหน่ายออกเป็น 2 ประเภท แบบง่าย ๆ
- แบตเตอรี่น้ำ
- แบตเตอรี่แห้ง
ทั้งนี้ความแตกต่างของแบตเตอรี่รถยนต์ทั้ง 2 ชิ้นนี้ เรียกได้ว่าไม่มากมายสักเท่าไหร่ แต่ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองเสียมากกว่า หากเลือกใช้งานแล้วแบตเตอรี่แบบไหนถึงเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เนื้อหา
แบตเตอรี่น้ำ (การ ดูแล รักษา แบตเตอรี่ รถยนต์)

แบตเตอรี่รถยนต์
หากคุณต้องการความถึกทนทานของแบตเตอรี่แล้วล่ะก็ คำตอบเดียวที่คุณต้องเลือกก็คือ “แบตเตอรี่น้ำ” ที่มาพร้อมคุณสมบัติในเรื่องความทนทาน หากคุณดูแลรักษาดี พร้อมทั้งยังมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ อีกด้วย
ทำไมถึงยกให้แบตเตอรี่น้ำมีความทนทานนั้น คงหนีไม่พ้นเรื่องการ ดูแล แบตเตอรี่ รถยนต์นั้นเอง โดยแบตเตอรี่น้ำสามารถเติมน้ำกลั่นที่ระเหยจากการใช้งานนั้นเอง และราคาน้ำกลั่นที่ใช้เติมยังอยู่ขวดละ 10 – 20 บาท เพียงเท่านั้นเอง
เพียงแค่สามารถเติมน้ำกลั่นกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ได้ใหม่ ก็ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่น้ำมีอายุที่มากกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ นั้นเอง
แบตเตอรี่แห้ง (การ ดูแล รักษา แบตเตอรี่ รถยนต์)

น้ำกลั่น
หากคุณเป็นคนไม่เน้นการดูแลรักษาอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถึงเวลาก็เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทันทีและสามารถจ่ายเงินซื้อแบตเตอรี่แห้งในราคาที่แพงกว่าเล็กน้อย ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของแบตเตอรี่แห้งนั้นเอง
เรียกได้ว่าแบตเตอรี่แห้งจะตอบโจทย์การใช้งานแบบไม่ต้องดูแลแต่อย่างใด เมื่อถึงเวลาที่แบตเตอรี่เสื่อมเก็บไฟฟ้าไม่อยู่แล้ว ก็เพียงแค่ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่เท่านั้นก็คือเป็นอันจบ
ตามปกติของแบตเตอรี่รถยนต์ทั้ง 2 รูปแบบ จะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันอีกด้วย ถ้าเป็นแบตเตอรี่แห้งจะมีอายุสั้นกว่า และมีค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 2 ปี บวก / ลบ โดยประมาณ ในส่วนแบตเตอรี่น้ำจะมีอายุการใช้งานที่มากกว่า 3 ปี บวก / ลบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา ตลอดจนวิธี ถนอม แบ ตนั้นเอง
วิธี ถนอม แบ ต คืออะไร ?
เห็นได้ชัดว่าแบตเตอรี่ทั้ง 2 ประเภทนั้น จะมีอายุเฉลี่ยโดยประมาณเท่านั้น ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับการดูแล ตลอดจนวิธี ถนอม แบ ตเตอรี่นั้นเอง โดยเฉพาะแบตเตอรี่น้ำนั้น ถ้ามีการดูแลเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ อายุการใช้งานอาจเพิ่มเป็น 4 ปี ขึ้นไปเลยทีเดียว
- แบตเตอรี่น้ำ (การ ดูแล รักษา แบตเตอรี่ รถยนต์)

เติมน้ำกลั่น
จำเป็นต้องตรวจเช็กระดับของน้ำกลั่นอยู่เสมอ โดยให้ตรวจเช็กเป็นประจำในทุกเดือน ๆ หากแบตเตอรี่น้ำที่คุณใช้งานมีอายุการใช้งานมากกว่า 3 เดือนขึ้นไปแล้ว การที่ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นของแบตเตอรี่ถือว่าเป็นวิธี ถนอม แบ ตให้มีอายุที่ยืนยาวนั้นเอง
- หมั่นชาร์จไฟแบตเตอรี่อยู่เป็นประจำ (วิธี ถนอม แบ ต)

เครื่องชาร์จไฟ
หากรถยนต์ไม่ค่อยได้ใช้งานสักเท่าไหร่ เฉลี่ยระยะเวลา 1 เดือนอาจใช้งานสักครั้งหนึ่ง ถ้าคุณอยากให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวนั้น อาจต้องซื้ออุปกรณ์ชาร์จไฟแบตมาใช้งาน
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ในปัจจุบันหาซื้อมาใช้งานได้แบบง่าย ๆ ในราคาไม่กี่ร้อยบาทเพียงเท่านั้น โดยชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยชาร์จให้แบตเตอรี่มีการชาร์จไฟฟ้าเหมือนรถยนต์วิ่งใช้งานนั้นเอง
- เกจวัดไฟแบต (การ ดูแล รักษา แบตเตอรี่ รถยนต์)

เกจวัดไฟแบต
ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นเก่า ๆ ที่เรือนไมล์รถยนต์จะมีเกจวัดไฟแบตให้มาเป็นปกติ ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้มีการติดตั้งมาให้แต่อย่างใด การมีเกจวัดไฟแบตจะช่วยให้คุณสังเกตไฟแบตเตอรี่ว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติรึไม่ หาแบตเตอรี่มีไฟที่น้อยกว่าปกติ ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่าแบตเรากำลังมีปัญหาหรือเสื่อมนั้นเอง
การมีเกจวัดไฟแบตจะช่วยให้คุณรู้กำลังไฟในแบตเตอรี่ เพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น ในปัจจุบันสามารถหาซื้อเกจวัดไฟแบตได้แบบง่าย ๆ ในราคาไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น พร้อมทั้งไม่ต้องติดตั้งกับรถยนต์แต่อย่างใด การใช้งานเพียงแค่เสียบไว้ที่ช่องจุดบุหรี่เพียงเท่านั้น
ล้าง รถ เอง เรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำได้
รถ ดัดแปลงคืออะไร แบบไหนคือต้องแจ้งดัดแปลงสภาพ ?
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://khaorodnissan.com/