ค่า บํา รุ ง รักษา รถยนต์ พร้อมจุดที่ต้องเช็กสภาพรถยนต์ที่สามารถตรวจสอบได้ตนเองก่อนออกเดินทาง มีอะไรบ้าง ต้องเช็กจุดไหน มาดูกัน
เมื่อใช้รถไปนาน ๆ หรือใช้งานหนักเป็นประจำ รถยนต์ของคุณย่อมต้องเกิดความเสื่อมสภาพเป็นธรรมดา จึงต้องมีการซ่อมแซมส่วนที่เกิดการชำรุดและสึกหรอ ซึ่งค่า บํา รุ ง รักษาของรถยนต์แต่ละรุ่นนั้นไม่เท่ากัน โดยขั้นต่ำจะเริ่มที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับค่าอะไหล่และวัสดุในการซ่อม
ค่า บํา รุ ง รักษา เป็นสิ่งที่ต้องจ่ายเมื่อซื้อรถยนต์มาใช้
เพื่อดูแลรักษารถยนต์ให้ใช้งานไปได้นาน ๆ จึงต้องมีการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เป็นประจำ หากไม่ขี้เกียจก็สามารถตรวจสอบสภาพรถเองทุกวันได้ ดังนี้
อ่านเพิ่มเติม
เนื้อหา
รายการตรวจเช็ครถยนต์ประจําวัน
- เช็กสภาพภายนอกของรถยนต์ โดยอาจจะสังเกตร่องรอยรถรอบคัน ดูกระจกรถ หรือตรวจดูยางรถให้ครบทุกเส้นว่าแฟบลงหรือไม่ หากพบความผิดปกติ จะได้แก้ไข
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเบรกและคลัตช์ รวมถึงระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- เช็กรอยรั่วของน้ำมันเบรก โดยการตรวจดูรอยน้ำมันบริเวณใต้ท้องรถ
- ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากส่งผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ หากพบว่าน้ำในหม้อน้ำพร่องลงไปให้ใช้น้ำเปล่าเติมลงไปให้เต็ม
หากไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกเช็กทุกวัน ก็อาจจะตรวจสอบส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์เฉพาะเวลาจะออกเดินทางไปต่างจังหวัดหรือไหนมาไหนไกล ๆ ก็ได้
จุดที่ควรเช็กเมื่อจะออกเดินทางไกล
เช็กแบตเตอรี่
ก่อนออกเดินทางควรเช็กสภาพแบตเตอรี่ว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ หากมีคราบขี้เกลือก็ให้ทำความสะอาด พร้อมตรวจสอบความแน่นของขั้วแบต ฉนวนหุ้มสาย รวมถึงระดับน้ำกลั่นที่ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมแก่การใช้งาน
เช็กช่วงล่าง
เช็กช่วงล่างด้วยการขับบนทางเรียบ พร้อมสังเกตว่าช่วงล่างรถคุณมีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ นอกจากนี้ ยังควรเช็กรอยรั่วของโช้ค รวมถึงพวงมาลัย หากมีความผิดปกติ โช้ครั่ว หรือพวงมาลัยเบี้ยวก็สามารถนำเข้าอู่ให้ช่างแก้ไขให้ได้
เช็กระบบเบรก
ระบบเบรกเป็นสิ่งสำคัญมากในการขับขี่ หากเบรกชำรุดอาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุร้ายแรงได้ จึงควรตรวจเช็กระบบเบรกก่อนออกเดินทาง ทั้งในส่วนของผ้าเบรก น้ำมันเบรก และจุดอื่น ๆ หากพบความผิดปกติ เช่น เบรกดัง เบรกสั่น เบรกแข็งหรือจมมากเกินไป หรือเหยียบเบรกแล้วรถเบี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง ควรนำเข้าอู่ให้ช่างตรวจสอบหาสาเหตุพร้อมแก้ไขให้เร็วที่สุด
ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล
เช็กล้อและยาง
ควรตรวจสอบยางว่ามีการรั่วซึม ดอกยางมีมากพอพร้อมใช้งานหรือไม่ สำหรับล้อให้สังเกตุว่าคด เบี้ยวไหม หากมีความผิดปกติควรเปลี่ยนใหม่ และไม่ควรใช้เดินทางไกล เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้
เช็กระบบระบายความร้อน
จุดสำคัญของรถยนต์คือระบบระบายความร้อน หากเกิดปัญหาอาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนจนเกิดการระเบิดได้ ดังนั้น น้ำเย็นในหม้อพักน้ำ จึงควรอยู่ในระดับที่เหมาสม ไม่ควรให้อยู่ในระดับน้อยเกินไป
เช็กระบบไฟส่องสว่าง
สังเกตความผิดปกติของระบบไฟต่าง ๆ ว่ามีความผิดปกติดีหรือไม่ ไฟหน้าส่องสว่างชัดเจนไหม ไฟเลี้ยวมีอาการติดข้างเดียวหรืเปล่า พร้อมเช็กไฟตัดหมอก และไฟฉุกเฉินให้เรียบร้อย หากเกิดปัญหาควรให้ช่างตรวจสอบและแก้ไขให้
เช็กเครื่องมือประจำรถ
ปัญหาไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างทางได้เสมอ ใครจะรู้ว่าขับรถอยู่ดี ๆ อาจจะเสียขึ้นมาได้ จึงควรมีอุปกรณ์ติดรถยนต์ไว้ เช่น แม่แรง ล้อยางอะไหล่ ชุดเครื่องมือ อุปกรณ์เติมลม สายพ่วงแบต สายลากรถ เป็นต้น
หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ค่า บํา รุ ง รักษา รถแบรนด์ญี่ปุ่นจัดเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีค่าซ่อมถูก มีอะไหล่ไม่แพง หาร้านซ่อมได้ง่าย ส่วนรถยุโรปแม้จะมีค่าอะไหล่แพง เพราะต้องนำเข้ามา จึงทำให้ค่าซ่อมบำรุงจึงแพงตามไปด้วย แต่ก็มีความแข็งแรงคงทนดี
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://khaorodnissan.com/
