เมื่อใช้งานไปนาน ๆ สีรถยนต์ของคุณอาจซีดจางลงเป็นธรรมดา หรืออาจมีแผลที่ผิวรถเกิดขึ้นมาจากพฤติกรรมการขับขี่ หากต้องการทําสีรถยนต์ใหม่ ต้องทำอย่างไร ควรรู้อะไรบ้าง มาดูกัน
สีรถยนต์มีตำหนิจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งานที่ยาวนานจนทำให้สีรถซีดจางลง หรือการขับขี่ที่สมบุกสมบันเกินไปจนทำให้รถเกิดรอยขีดข่วน หรือรอยตำหนิที่เกิดจากการเฉี่ยวชน ผู้ใช้รถหลายคนจึงเลือกแก้ไขปัญหาด้วยการทําสีรถยนต์เพื่อให้รถที่รักกลับมามีสีสันสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง แล้วถ้าจะทำสีรถยนต์ใหม่ ต้องรู้อะไรบ้าง เรามีคำแนะนำมาฝาก

ทำสีรถใหม่
อ่านเพิ่มเติม
- ไม่ยากไม่ง่าย วิธีลบรอยขีดข่วนรถยนต์ด้วยตนเอง
- ซ่อม พวงมาลัย รถ เปลี่ยนจากซีดลอกให้ใหม่ขึ้นได้ฉบับ DIY
เนื้อหา
ข้อควรรู้ก่อนทำสีรถยนต์
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่า หากทําสีรถกับร้านที่ไม่ใช่ศูนย์ อาจจะได้แค่ “สีที่ใกล้เคียง” แต่ไม่ใช่ “สีเดิม” กับที่โรงงานผลิตมา ที่สำคัญ ควรเลือกร้านที่ไว้ใจได้ มีมาตรฐาน และมีอุปกรณ์พร้อม เพราะการทำสีรถยนต์ต้องใช้ประสบการณ์ อาศัยความเชี่ยวชาญ ต้องรู้ขั้นตอนและเทคนิคในการทำเป็นอย่างดี จึงจะสามารถซ่อมสีรถออกมาได้อย่างมีคุณภาพ
ประเภทของสีรถยนต์
สีที่ใช้ในการทำสีรถยนต์ มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ สี OEM, สี 1K และสี 2K ซึ่งแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป
- สี OEM : หรือที่เรียกกันว่าสีอบ เป็นสีที่ใช้ในโรงงานประกอบรถยนต์ เนื้อสีมีคุณภาพดี ยึดเกาะได้ดีเยี่ยม มีความทนทานสูงมาก ใช้งานได้ยาวนาน
- สี 1K : สีแห้งเร็ว มีคุณสมบัติแห้งเร็ว ใช้เวลาในการทำไม่นาน ทั้งยังใช้งบประมาณต่ำ และมีความทนทานต่ำที่สุดในบรรดาสีทั้ง 3 ประเภท
- สี 2K : สีแห้งช้า ได้รับความนิยมมาก มีความเงางามและทนทานสูง ทั้งยังให้สีที่ใกล้เคียงกับสีรถเดิมมากที่สุด แต่ใช้เวลาในการทำนาน จึงถูกเรียกว่าสีแห้งช้านั่นเอง
โดยปกติแล้ว อู่ซ่อมรถหรือศูนย์ซ่อมจะใช้แค่สี 1K และสี 2K ในการทําสีรถยนต์เท่านั้น สำหรับสีรถที่ได้รับความนิยมจะเป็นสี 2K เพราะให้สีที่ใกล้เคียงกับสีเดิมมากที่สุด ทั้งยังมีความทนทานต่อสารเคมีต่าง ๆ ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ซีดจางง่าย ๆ ต่างจากสี 1K ที่แม้จะมีคุณสมบัติแห้งเร็ว แต่มีคุณภาพต่ำกว่านั่นเอง

สี 2K ได้รับความนิยม เพราะใกล้เคียงกับสีเดิม
ทําสีรถยนต์ราคาเท่าไหร่ ?
สำหรับราคา ทํา สี รถยนต์ ทั้ง คัน จะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ การบริการที่ร้าน รวมถึงประเภทของสีรถยนต์ที่ใช้ นั่นหมายความว่า ยิ่งใช้ของมีคุณภาพเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปเท่านั้น หากต้องการประหยัดงบ สามารถทำสีรถด้วยตัวเองได้ แต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการทำและต้องมีอุปกรณ์พร้อม หากไม่แน่ใจในฝีมือตัวเอง ควรนำเข้าอู่ให้ช่างทำให้จะดีกว่า
การดูแลรักษาสีรถ
การดูแลรักษาสีรถ จะช่วยให้ผิวรถของคุณเสื่อมสภาพได้ช้าลง โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ล้างรถเป็นประจำ : ยิ่งเมื่อขับรถลุยดินโคลน หรือมีขี้นก ยางไม้ หรือสิ่งสกปรกตกใส่ ยิ่งต้องทำความสะอาดคราบต่าง ๆ เหล่านั้นออกให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กลายเป็นคราบฝังแน่นจนส่งผลเสียต่อผิวรถ โดยจะนำเข้าคาร์แคร์ หรือล้างด้วยตัวเองก็ได้ แต่ต้องรู้เทคนิคการล้าง เพื่อป้องกันไม่ให้สีรถซีดจางเร็ว
- ห้ามจอดรถตากแดดนาน ๆ : การจอดรถตากแดดนาน ๆ จะทำให้สีรถซีดจางเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ขี้นกหรือยางไม้ร่วงหล่นใส่จนทำอันตรายต่อผิวรถได้
- เคลือบสีรถยนต์ : เป็นวิธีที่ได้ผลดีมาก ๆ เพราะการเคลือบจะช่วยทำให้สีรถคงความสดใหม่ได้นานขึ้น โดยสามารถซื้อน้ำยามาเคลือบเอง หรือจะไปที่ร้านก็ได้เช่นกัน

ล้างรถเป็นประจำ
กฎหมายเกี่ยวกับการทำสีรถยนต์
กรณีที่เจ้าของรถตั้งใจเปลี่ยนสีรถยนต์ให้ไม่เหมือนกับสีเดิม จะต้องแจ้งนายทะเบียนภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันเปลี่ยนสีรถ โดยสามารถเตรียมใบคู่มือจดทะเบียนรถ ภาพถ่ายบัตรประชาชน และหลักฐานการเปลี่ยนสีรถ ไปติดต่อที่กรมการขนส่งทางบกได้เลย หากแจ้งเกินระยะเวลาดังกล่าวหรือไม่แจ้งเลย เจ้าของรถจะมีความผิดตามพรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 60 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://khaorodnissan.com/