Segment รถยนต์มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม A -Segment (E-Co Car), B -Segment (City Car), C-Segment (Compact Sedan), D-Segment และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงรถยนต์ C Segment หรือคอมแพ็กซีดานกัน สำหรับ รถยนต์ C Segment 2022 (ซี เซกเมนต์) คือ รถขนาดกลาง รองรับผู้โดยสารได้ไม่เกิน 5 คน ให้ความอเนกประสงค์ และมีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์กลุ่ม A -Segment และ B -Segment โดยส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์อยู่ที่ 1.5 ลิตร – 2.2 ลิตร ไม่มากไปกว่านี้ ซึ่งในตลาดรถยนต์บ้านเรามีรถ C-Segment อยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้น จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกันดีกว่า
อ่านเพิ่มเติม
รถยนต์ c segment รุ่นไหนดี ?
Honda Civic

รถยนต์ C Segment 2022
เริ่มต้นกันที่ Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) รถ C-Segment ซีดาน 4 ประตู ดีไซน์สปอร์ต ได้รับการตกแต่งอย่างทันสมัยน่าใช้ ครบครันด้วยออปชันอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ, ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ที่ชาร์จไฟไร้สาย, หน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT, ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS), ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN) เป็นต้น
มิติตัวถัง มีความยาว 4,678 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,802 มิลลิเมตร ความสูง 1,415 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,733 มิลลิเมตร
ฮอนด้า ซีวิค 2022 พร้อมขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี. ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว VTEC TURBO ส่งกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
- รุ่น EL ราคา 964,900 บาท
- รุ่น EL+ ราคา 1,009,900 บาท
Mazda 3

รถยนต์ C Segment
มาต่อกันที่ Mazda 3 (มาสด้า 3) รถยนต์ C Segment 2022 ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่ได้รับการออกแบบในแนวคิด Kodo: Soul of Motion เอกลักษณ์ของมาสด้า เน้นความเรียบง่ายแต่สง่างาม ภายในห้องโดยสารโปร่งโล่ง และติดตั้งฟังก์ชันต่าง ๆ มาอย่างครบครัน อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง, ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ 2 ตำแหน่ง, หน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว, ระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบเสียง Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ฯลฯ โดยจะมีตัวถังให้เลือก 2 รูปแบบ คือ ตัวถัง Sedan 4 ประตู และ Fastback 5 ประตู รวม 6 รุ่นย่อย
- Sedan 2.0 C ราคา 979,000 บาท
- Sedan 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
- Sedan 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท
- Fastback 2.0 C Sports ราคา 979,000 บาท
- Fastback 2.0 S Sports ราคา 1,069,000 บาท
- Fastback 2.0 SP Sports ราคา 1,198,000 บาท
มิติตัวถังรุ่น Sedan มีความยาว 4,660 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,795 มิลลิเมตร ความสูง 1,440 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,725 มิลลิเมตร
มิติตัวถังรุ่น Fastback มีความยาว 4,660 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,795 มิลลิเมตร ความสูง 1,435 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,725 มิลลิเมตร
สำหรับขุมพลัง มาสด้า 3 ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสีย 4-2-1 พร้อมระบบ i-Stop ส่งกำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด
Toyota Corolla Altis

รถ C-Segment
ตามมากับ Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรล่า อัลติส) รถยนต์ C Segment ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตทันสมัย และเพียบพร้อมด้วยออปชันต่าง ๆ ระบบความบันเทิง รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มอบให้มาอย่างจัดเต็มเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ, จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID จอสี 7 นิ้ว, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย, จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Bluetooth / USB พร้อม Apple CarPlay และลำโพง 6 จุด, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น 1.6 G ราคา 879,000 บาท
- รุ่น 1.8 Sport ราคา 964,000 บาท
- รุ่น HEV Premium ราคา 994,000 บาท
- รุ่น 1.8 GR Sport ราคา 1,059,000 บาท
- รุ่น HEV GR Sport ราคา 1,114,000 บาท
มิติตัวถังรุ่น HEV GR Sport มีความยาว 4,635 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,795 มิลลิเมตร ความสูง 1,455 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
มิติตัวถังรุ่น 1.8 GR Sport มีความยาว 4,635 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,795 มิลลิเมตร ความสูง 1,435 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
มิติตัวถังรุ่น HEV Premium มีความยาว 4,630 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,780 มิลลิเมตร ความสูง 1,455 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
มิติตัวถังรุ่น 1.8 Sport และรุ่น 1.6 G มีความยาว 4,630 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,780 มิลลิเมตร ความสูง 1,435 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
Toyota Corolla Altis มาพร้อมขุมพลัง
- รุ่น 1.6 G
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 1,598 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ส่งกำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบต่อนาที จับคู่ทำงานกับเกียร์ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift
- รุ่น 1.8 Sport และรุ่น 1.8 GR Sport
เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ส่งกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่ทำงานกับเกียร์ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift
- รุ่น HEV GR Sport และรุ่น HEV Premium
ขุมพลังไฮบริด ที่เป็นการทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์ ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. ส่งกำลัง 98 แรวม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที และมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ส่งกำลัง 53 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันแล้วจะได้พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
MG5

C Segment รถยนต์
ปิดท้ายด้วย MG5 (เอ็มจี 5) รถ C-Segment รถดีไซน์สปอร์ตคูเป้ ได้รับการออกแบบในแนวคิด Brit Dynamic ที่ให้ทั้งสมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสุดทันสมัยมากมาย อาทิ หลังคาซันรูฟ, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, หน้าจอสีสัมผัสขนาด 10 นิ้ว, จอคลัสเตอร์ LCD ขนาด 7 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับได้ 3 ระดับ, ระบบ i-Smart ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่จะทำให้การตรวจเช็กรถเป็นเรื่องง่าย ฯลฯ
มิติตัวถังรุ่น C มีความยาว 4,675 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,842 มิลลิเมตร ความสูง 1,473 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร
มิติตัวถังรุ่น D, D+, X มีความยาว 4,675 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,842 มิลลิเมตร ความสูง 1,480 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร
สำหรับขุมพลัง เอ็มจี 5 จะมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี. DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-Tech ส่งกำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
- รุ่น C ราคา 585,000 บาท
- รุ่น D ราคา 625,000 บาท
- รุ่น D+ ราคา 679,000 บาท
- รุ่น X ราคา 709,000 บาท
รถยนต์ C Segment มีให้เลือกหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีราคาเริ่มต้นที่หลักแสนบาท ไปจนถึงล้านต้น ๆ และมีข้อดี-ข้อเสียแตกแต่งกัน จะเลือกรุ่นไหนก็ล้วนขึ้นอยู่กับความสนใจและพิจารณาส่วนบุคคล หากสนใจรถ C-Segment รุ่นไหน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจที่เว็บไซต์ทางการของรถยนต์รุ่นนั้น ๆ