ไม่รู้ว่าใครเคยได้ยินรึไหมว่า รถยนต์เพียงแค่สตาร์ทรถติดและเบรคอยู่ก็เพียงพอกับการใช้งานแล้ว ทำให้เห็นได้ชัดว่าระบบเบรครถยนต์เป็นส่วนสำคัญอันดับแรก ๆ ของรถยนต์ก็ว่าได้ ซึ่งหากระบบเบรค รถยนต์ของคุณไม่พร้อมใช้แล้วล่ะก็ โอกาสเกิดอุบัติเหตุเรียกได้ว่ามีเปอร์เซ็นต์สูงมาก ๆ ก็ว่าได้
ระบบ เบรค รถยนต์ คือ ตัวอุปกรณ์ที่ช่วยรถยนต์ชะลอความเร็วจนสามารถทำให้รถยนต์หยุดนิ่งได้ ซึ่งใช้การเหยียบแป้นเบรคที่เท้าเป็นมาตรฐานของรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ในท้องตลาด ตามปกติในรถยนต์จะมีตำแหน่งเบรคอยู่สองจุด คือ แป้นเท้า และ เบรกมือ ซึ่งสามารถชะลอความเร็วของรถยนต์ได้เหมือนกัน
รีวิวยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2021 แนะนำ 5 อันดับ
แบตเตอรี่รถยนต์ กี่โวลต์ กี่แอมป์?
ระบบเบรครถยนต์ มีกี่แบบ โดยตามปกติของรถยนต์ที่ขายในท้องตลาดทั่วไป มีเพียงแค่ระบบดรัมเบรค (Drum Brake) และระบบดิสก์เบรค (Disc Brake)
เนื้อหา
ดรัมเบรค (Drum Brake) ส่วนประกอบ ระบบเบรครถยนต์
เบรคดรัม มักนิยมใช้อยู่กับรถบรรทุกเป็นหลัก ซึ่งนิยมใช้ในตำแหน่งเบรคหลังเพียงเท่านั้น (ดิสก์หน้า – ดรัมหลัง) โดยดรัมเบรคเป็นโลหะวงกลมยึดติดกับดุมล้อและหมุนไปพร้อมล้อ โดยจะมีชุดฝักเบรคที่ประกอบด้วยผ้าเบรค กลไกปรับตั้งเบรค สปริงดึงกลับ และลูกสูบปั๊มเบรค ซึ่งจะมีสายน้ำมันเบรคทำงานร่วมกับลูกสูบปั๊มเบรค เมื่อคุณเหยียบแป้นเบรค น้ำมันเบรคจะวิ่งมาหาที่ลูกสูบปั๊มเบรค และดันผ้าเบรคให้ไปเสียดทานกับดรัม เพื่อให้เกิดความฝืด จนทำรถยนต์ชะลอความเร็วลง จนไปถึงหยุดได้
ข้อดีของดรัมเบรคก็คือ ราคาถูกกว่าดิสก์เบรค อายุการใช้งานผ้าเบรคยาวนานกว่าดิสก์ และผิวหน้าสัมผัสของชุดผ้าเบรคใหญ่กว่าดิสก์เบรค ซึ่งยิ่งรถยนต์มีน้ำหนักมากเท่าไหร่ ยิ่งให้ประสิทธิภาพในการเบรคดีขึ้นไป
ข้อเสียของดรัมเบรค ตอบสนองการเบรคได้ไม่ดีเท่าดิสก์เบรค ระบายความร้อนไม่ดี หากคุณใช้เบรคหนัก ๆ อาจเกิดความร้อนสะสมจนเบรคไม่อยู่ เปลี่ยนผ้าเบรคยากกว่าดิสก์พอสมควร
ดิสก์เบรค (Disc Brake) ส่วนประกอบ ระบบเบรครถยนต์
ดิสก์เบรค นิยมใช้กับรถยนต์นั่งทั่วไป (ดิสก์หน้า – หลัง) โดยชุดดิสก์เบรค ประกอบด้วยแผ่นจานดิสก์ จับติดยึดอยู่กับแกนเพลาล้อ ซึ่งเมื่อเวลารถยนต์วิ่ง จานดิสก์จะหมุนไปพร้อมล้อนั้นเอง ซึ่งจะมีอุปกรณ์คาลิปเปอร์ (Caliper) จะถูกติดตั้งอยู่ครอบจานเบรกอีกที
ตัวของคาลิปเปอร์จะมีผ้าเบรคประกอบอยู่ทางด้านซ้ายและด้านขวา และมีลูกสูบปั๊มเบรคติดตั้งอยู่ โดยหลักการทำงานของดิสก์เบรคก็คือ เมื่อคุณเหยียบแป้นเบรค น้ำมันเบรคจะวิ่งมาหาที่ลูกสูบปั๊มเบรค และดันผ้าเบรคให้ไปเสียดทานกับจานดิสก์เบรคนั้นเอง
ข้อดีของดิสก์เบรค ตอบสนองการเบรคได้ดีกว่าเบรคแบบดรัม พร้อมทั้งระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเบรคได้ดีกว่า สามารถเปลี่ยนผ้าเบรกได้ง่าย
ข้อเสียของดิสก์เบรค อัตราสึกของผ้าเบรคเยอะกว่าแบบดรัม ทำให้เปลี่ยนผ้าเบรคบ่อยกว่า นอกจากนี้ดิสก์เบรคยังมีราคาที่สูงกว่าดรัมเบรค เราสังเกตได้ง่าย ๆ จากรถยนต์รุ่นถูก ๆ จะพบว่าให้เป็นแบบดิสก์หน้า และดรัมหลัง เพื่อลงต้นทุนนั้นเอง ส่วนรุ่นที่แพง ๆ จะเป็นดิสก์หน้า – หลัง เกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีในส่วนวงจรระบบเบรครถยนต์ ที่ค่อยทำหน้าที่ผ่อนแรงของผู้ขับขี่เวลาต้องการชะลอรถ ตลอดจนการเบรคเพื่อหยุดนิ่ง ซึ่งอุปกรณ์นี้ก็คือ “หม้อลมเบรก” โดยทำงานด้วยระบบสุญญากาศ (Vacuum) ภายในหม้อลมเบรค มีแผ่นไดอะเฟรม ซึ่งลมที่ใช้มาจากท่อไอดี ทั้งนี้หม้อลมเบรคจะช่วยให้ผู้ขับรู้สึกว่าเหยียบเบรคแล้วรู้สึกนุ่มนวล
หากหม้อลมเบรกมีปัญหา ผู้ขับขี่จะสามารถรับรู้ถึงความผิดปกติของเบรคได้เลย เนื่องจากจะไม่ลมมาช่วยในการเบรครถนั้นเอง และต้องใช้กำลังของคุณล้วน ๆ ในการเหยียบแป้นเบรคเพื่อหยุดรถ ซึ่งหากท่านกำลังเจอปัญหาว่า เหยียบแป้นเบรกแล้วรถไม่ยอมหยุดเหมือนปกติแล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้จอดแล้วหารถมาลากไปจะดีกว่า
เรียกได้ว่าระบบเบรครถยนต์เป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ เมื่อเครื่องยนต์และเกียร์ทำให้รถขับเคลื่อนไปข้างหน้าแล้ว ระบบเบรคก็จะเป็นตัวชะลอความเร็ว การหยุดรถนั้นเอง หากระบบเบรครถยนต์มีความผิดปกติ อยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานแล้ว ก็ไม่ควรเอาชีวิตไปเสี่ยงในการขับขี่แต่อย่างใด จำเป็นต้องซ่อมให้ระบบเบรคสมบูรณ์เสียก่อน ถึงจะสามารถใช้รถยนต์ได้อีกครั้ง
ทั้งนี้เครื่องยนต์พังเสียหาย ก็เพียงแค่รถวิ่งไม่ได้ แต่หากเบรคมีปัญหาแล้วล่ะก็ ทั้งตัวคุณ ทั้งรถยนต์ และเพื่อนร่วมท้องถนนที่ต้องมาเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุก็ว่าได้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorodnissan.com/