สัญลักษณ์หน้าปัดรถ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถยนต์ควรจะรู้ โดยสัญลักษณ์ที่แสดงขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์จะมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะสื่อถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ก็ว่าได้ ทั้งนี้เมื่อรถยนต์เกิดสัญญาเตือนต่าง ๆ แสดงขึ้นมา จำเป็นต้องหยุดใช้งานรถทันทีเพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเอง
สายพานไทม์มิ่ง ชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์
การที่ไฟสัญลักษณ์หน้าปัดรถยนต์แสดงเตือนขึ้นมานั้น เรียกได้ว่าเป็นการแจ้งเตือนก่อนที่รถยนต์ของคุณกำลังจะมีปัญหา เนื่องจากรถยนต์มีความซับซ้อนของชิ้นส่วนอุปกรณ์ ตลอดจนเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย ซึ่งการมีสัญลักษณ์ หน้าปัดรถจะช่วยให้คุณทราบถึงปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังจะเดินขึ้นก็ว่าได้
ตามปกติแล้วเวลาบิดกุญแจจะสตาร์ทรถยนต์แล้ว สัญญาลักษณ์ต่าง ๆ ที่หน้าปัดเรือนไมล์จะแสดงขึ้นเพื่อตรวจเช็กความพร้อมในการใช้งาน และเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้ว สัญญาลักษณ์ไฟต่าง ๆ จะดับไปอัตโนมัติ ยกเว้นแต่รถคุณกำลังมีปัญหา สัญลักษณ์จะไม่ดับหายไปแต่อย่างใด
สำหรับสัญลักษณ์ บนหน้าปัดรถ 5 รูปแบบที่แจ้งเตือนว่ารถยนต์ของคุณกำลังมีปัญหา ได้แก่
เนื้อหา
1. ไฟรูปเครื่องยนต์ (สัญลักษณ์ หน้าปัด รถ)
เรียกได้ว่าเมื่อไฟรูปเครื่องยนต์ขึ้นแสดงที่หน้าปัดรถแล้ว สามารถรับรู้ได้เลยว่าเครื่องยนต์ของรถคุณกำลังมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งจะเกิดสาเหตุใดกันนั้น อาจจำเป็นต้องเข้าศูนย์บริการ ตลอดจนอู่ซ่อมรถทั่ว ๆ ไปเพื่อตรวจเช็กอาการก็ว่าได้
เมื่อไฟรูปเครื่องยนต์ขึ้นโชว์แล้ว จะสามารถใช้รถยนต์ขับได้อยู่ โดยจะมีกล่องควบคุม (สมอง) ไปล็อกรอบเครื่องยนต์ไม่ให้คุณใช้งานในรอบสูง เพื่อป้องกันเครื่องยนต์เสียหายนั้นเอง
ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้
– เซนเซอร์วัดออกซิเจนระบบไอเสียมีปัญหา (O2 sensor)
– Catalytic converter มีปัญหา
– Airflow วัดการไหลของอากาศมีปัญหา
– หัวเทียนหรือสายหัวเทียนมีปัญหา
2. ไฟเตือนเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ (สัญลักษณ์ หน้าปัดรถ)
เมื่อไฟเตือนเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์แสดงขึ้น จำเป็นต้องหยุดใช้งานรถยนต์ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น แต่หากยังฝืนใช้งานต่อไปแล้วล่ะก็ คุณอาจต้องควักเงินซ่อมรถหลายบาทอย่างแน่นอน
ปัญหาความร้อนที่เกิดขึ้นนั้น จะเกิดจากระบบระบายความร้อน (หม้อน้ำ) ซึ่งต้องเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน อาจเป็นเรื่องน้ำยาระบายความร้อนที่หายขาด ตลอดจนวาล์วน้ำไม่ทำงาน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะทำให้ระบบไม่สมบูรณ์ และก็จะไม่สามารถระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้นั้นเอง
3. ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ (หน้าปัดรถ)
เรียกว่าเป็นสัญญาลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าที่ใช้ภายในรถยนต์ก็ว่าได้ และถือว่าเป็นเรื่องที่จะรีรอชักช้าไม่ได้สักเท่าไหร่ เนื่องจากไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่ไฟอาจหมดได้ เมื่อไฟหมดรถยนต์คุณก็ไม่สามารถสตาร์ทติดก็ว่าได้ จำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ไปชาร์จไฟใหม่ เรียกว่าวุ่นวายพอสมควรเลยทีเดียว
อาการไฟเตือนรูปแบตเตอรี่สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ อาทิเช่น
– ระบบไฟ, ฟิวส์ สายไฟอาจขาด/รั่ว ตลอดจนความผิดปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ เช่น วิทยุ
– ไดรชาร์จมีปัญหา อาจต้องไปเช็กดูว่าเกิดจากการเสื่อมสภาพของตัวไดร์ชาร์จ หรือเป็นที่ชุดสายพานก็เป็นได้
4. ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง (สัญลักษณ์ บน หน้าปัด รถ)
ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลาหากเกิดไฟเตือนน้ำมันเครื่องขึ้น ต้องรีบหยุดในรถยนต์ทันทีป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเพิ่มเติมหากคุณยังฝืนใช้รถต่อ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากน้ำมันเครื่องขาด ซึ่งอธิบายแบบง่าย ๆ ว่า ไม่มีน้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นเครื่องยนต์นั้นเอง สาเหตุอาจเกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันเครื่อง ตลอดจนน้ำมันเครื่องหายก็เป็นได้
5. ไฟเตือนเกี่ยวกับระบบเบรก (สัญลักษณ์ บนหน้าปัดรถ)
ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายพอสมควร หากรถยนต์ของคุณมีไฟเตือนเกี่ยวกับระบบเบรก และคุณยังคงฝืนใช้งานรถยนต์ต่อโดยไม่มีการตรวจหาปัญหาว่าเกิดจากส่วนไหน ซึ่งขับ ๆ ไปอาจจะเบรกไม่อยู่ก็เป็นได้
ทั้งนี้ไฟเตือนเกี่ยวกับระบบเบรก คุณสามารถตรวจเช็กได้ง่าย ๆ ที่ชุดหม้อลมเบรกภายในห้องเครื่องยนต์นั้นเอง โดยให้ดูน้ำมันเบรกว่าอยู่ในระดับที่ได้กำหนดไว้รึไม่ หากไม่มีให้ไปหาซื้อน้ำมันเบรกมาเติมเพื่อจะสามารถขับรถยนต์ไปซ่อมได้ เนื่องจากระบบของน้ำมันเบรกจะไม่มีการหายไปไหนได้ แต่ถ้าน้ำมันเบรกหายแสดงว่ามีความผิดปกตินั้นเอง
สัญลักษณ์หน้าปัดรถ 5 ประเภทที่ทางเราได้แนะนำไป ถือว่ามีผลต่อการขับขี่เป็นอย่างมาก ซึ่งต้องรับการตรวจเช็กหาสาเหตุให้เจอเร็วที่สุด เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่ตามมาจากสภาพของรถยนต์ที่ไม่พร้อมใช้งาน ตลอดจนป้องกันความเสียหายที่อาจเพิ่มขึ้นหากยังฝืนใช้งานรถยนต์โดยที่ไม่ยอมซ่อม
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorodnissan.com/