อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แต่ละประเภทต่างกันหรือไม่ หรือต่างกันมากน้อยเพียงใด ปัญหาที่ผู้ใช้รถยนต์มักต้องตัดสินใจเมื่อต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ว่าจะเลือกแบตเตอรี่ประเภทไหนคุ้มค่าและตรงกับการใช้งานมากที่สุด
เหตุผลอีกประการที่เราควรต้องรู้ว่าแบตเตอรี่ประเภทใดมีอายุการใช้งานยาวนานเท่าไรเพราะ เวลาสตาร์ตรถไม่ติดเพราะแบตเตอรี่เสื่อมเป็นอะไรที่น่ากวนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเร่งรีบหรืออยู่ในสถานที่หรือเวลาที่ไม่อำนวยหากยังไม่เคยเจอสถานการณ์นี้ให้รู้ไว้เลยว่าเซ็งและชวนหัวร้อนมาก
ดังนั้น ผู้ใช้รถจึงควรทราบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เพราะอย่างน้อยจะได้ทราบว่าใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วแม้จะยังใช้ได้ปกติ แต่นับถอยหลังได้เลย ซึ่งถ้ารอให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้วค่อยเปลี่ยนก็อาจจะเจอสถานการน่ารำคาญแม้จะแก้ไขได้ไม่ยากอะไรในยามปกติ แต่บางทีแบตเตอรี่จะเสื่อมเวลาไหน ตอนไหน ที่ไหน มันกำหนดได้ยาก การรู้ว่าแบตเตอรี่รถยนต์แต่ละแบบนั้นอยู่ได้นานขนาดไหนจึงสำคัญ
เนื้อหา
อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำ

เริ่มต้นกันที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำหรือแบบเปียก
เริ่มต้นกันที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำหรือแบบเปียก ซึ่งข้อดีคือมันเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีราคาต่ำสุด แต่ต้องคอยหมั่นตรวจเช็กระดับของน้ำกลั่นภายในตัวแบตเตอรี่และเติมน้ำกลั่นเมื่อพบว่าต่ำกว่าระดับที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ
เพราะถ้าปล่อยให้แบตเตอรี่แห้งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของมันต่ำลงจนเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุการใช้งานจริงของมัน โดยปกติแล้วอายุแบตเตอรี่แบบน้ำจะอยู่ได้ประมาณ 1.5-2 ปี ในกรณีที่ได้รับการดูแลรักษาและชาร์จไฟ (จะด้วยไดชาร์จขณะขับขี่หรือเครื่องชาร์จไฟเมื่อไม่ได้ใช้รถยนต์ก็ตาม)
อ่านเพิ่มเติม
อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบกึ่งแห้ง
สำหรับอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบกึ่งแห้ง หรือ Maintenance Free นี้ จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยตั้งแต่ 1.5 -2 ปี สูงสุดไม่เกิน 3 ปี เหมือนกับแบตเตอรี่แบบน้ำ จะแตกต่างกันตรงต้องการการดูแลรักษาน้อยกว่ามาก บางยี่ห้อซีลปิดช่องเติมน้ำกลั่นไว้ด้วย ปัจจุบันได้รับความนิยมค่อนข้างมากเพราะสะดวกและราคาไม่สูงเท่าแบตเตอรี่แบบแห้ง
อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง

อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง (Sealed Maintenance Free) เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีราคาสูงสุด
อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง (Sealed Maintenance Free) เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีราคาสูงสุด เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นในสเปกที่เท่ากัน แต่ก็มีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่าด้วย ซึ่งปกติอายุแบตเตอรี่แบบแห้งจะเฉลี่ยที่ 4-5 ปี เลยทีเดียว และไม่ต้องการการดูแลรักษาเลยตลอดอายุการใช้งาน ไม่ต้องเช็กระดับน้ำกลั่นให้มือเลอะ
อย่างไรก็ตาม อายุแบตเตอรี่รถยนต์อาจมีอายุสั้นกว่ากำหนดจากการใช้งานหรือการไม่ได้รับบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง เช่น รถที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ๆ โดยไม่ได้สตาร์ตหรือกระตุ้นแบตเตอรี่ เนื่องจากรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ยิ่งต้องการไฟฟ้าไปหล่อเลี้ยงระบบมากกว่ารถยนต์รุ่นเก่า ๆ นอกจากนี้แบตเตอรี่ที่ต้องการการดูแล หากขาดการดูแลรักษา อาจเป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานสั้นกว่ากำหนด
ดังนั้น หากจะยืดอายุอายุแบตเตอรี่รถยนต์ควรต้องหมั่นดูแลรักษาระดับน้ำกลั่น (กรณีเป็นแบบน้ำ) ระดับไฟในแบตเตอรี่ให้เต็มอย่างสม่ำเสมอ เมื่อรถไม่ได้ใช้งานหรือจอดเป็นระยะเวลานาน ควรสตาร์ตเครื่องหรือนำออกมาขับบ้างเพื่อให้เกิดการชาร์จ (จริง ๆ ดีต่อส่วนประกอบอื่นด้วย) หากไม่สะดวกสามารถเลือกใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์แทนก็ได้
วิธีตรวจสอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่นั้นใกล้หมดสภาพแล้วหรือยัง วิธีเช็กแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมนั้นมีวิธีสังเกตได้อยู่หลายวิธี ตั้งแต่การสังเกตระดับความสว่างของระบบไฟต่าง ๆ ในรถยนต์ลดลงหรือไม่ สตาร์ตรถยากมากขึ้นกว่าที่เคยหรือเปล่า
หรือการใช้เครื่องมือวัดกระแสไฟช่วยวัดกำลังไฟ ซึ่งหากไม่มีเป็นของตัวเองสามารถนำรถไปให้ร้านแบตเตอรี่ตรวจเช็กได้ ว่าแบตเตอรี่รถยนต์เหลือเท่าไหร่ควรเปลี่ยนหรือยัง ถ้าต่ำกว่ากำหนดนั่นหมายความว่าแบตเตอรี่เริ่มอ่อนกำลัง มีความเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ควรตัดสินใจเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ลูกใหม่จะปลอดภัยมากกว่า
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://khaorodnissan.com/