หากรถยนต์ของคุณไม่มีแบตเตอรี่แล้ว บอกได้เลยว่าจะไม่สามารถใช้งานได้เลยในปัจจุบัน ซึ่งแบตเตอรี่มีหน้าที่จ่ายไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในรถยนต์ นับตั้งแต่การสตาร์ทเครื่องยนต์เลยก็ว่าได้ ยิ่งรถยนต์ในปัจจุบันพูดได้เลยว่า หากแบตเตอรี่หมดก็ไม่สามารถไปไหนได้เลย
แบตเตอรี่รถยนต์ กี่โวลต์ กี่แอมป์?
ทั้งนี้ถือได้ว่าแบตเตอรี่เป็นอะไหล่สิ้นเปลืองของรถยนต์อย่างหนึ่ง เนื่องจากมีอายุการใช้งาน และยังต้องมีการหมั่นตรวจเช็ก ดูแลรักษาอยู่เนือง ๆ โดยมีเหตุผลที่ว่าแบตเตอรี่จะพร้อมใช้งานอยู่เสมอนั้นเอง โดยแบตเตอรี่จะประกอบด้วย แผ่นธาตุบวก แผ่นธาตุลบ น้ำกรดเจือจาง (กรดกำมะถันเจือจาง) ซึ่งจะทำปฏิกิริยาทางเคมีกันนั้นเอง
เราสามารถแบ่งแบตเตอรี่ออกเป็น 2 จำพวกแบบง่าย ๆ ได้แก่
- แบตเตอรี่แห้ง
- แบตเตอรี่น้ำ
ตามปกติอายุแบตเตอรี่รถยนต์ในการใช้งานอยู่ประมาณ 2 – 3 ปี เพียงเท่านั้น สำหรับโดยเป็นค่าเฉลี่ยของอายุแบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง ในส่วนของแบตเตอรี่น้ำอาจมีอายุที่ยืนยาวกว่าอีกเล็กน้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และการใช้งานเป็นหลัก ไม่มีตัวเลขที่แน่นอนในเรื่องนี้ก็ว่าได้
ในปัจจุบันในประเทศไทยมียี่ห้อแบตเตอรี่ให้เลือกอยู่มากมายหลายราคา ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพอใจในการเลือกซื้อของคุณก็ว่าได้ ทั้งนี้สิ่งสำคัญในการเลือกแบตเตอรี่ก็คือ
- การเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ จำเป็นต้องเลือกให้มีขนาดแอมแปร์เท่าเดิมหรือมากกว่าจากของเดิม ซึ่งให้คิดไว้ก่อนเลยว่าแบตเตอรี่รถยนต์ที่ขนาดแอมแปร์มากกว่าจะใช้งานได้ทนทานกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีแอมแปร์น้อยกว่านั้นเอง
- เลือกแบตเตอรี่ตามความเหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้งาน ทั้งนี้แบตเตอรี่แต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างเหมาะสมต่อรถยนต์แต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ก็ตามแต่ จำเป็นต้องเลือกให้ถูกต้อง นอกจากนี้หากคุณเป็นคนไม่ดูแลรถสักเท่าไหร่ การเลือกใช้แบตเตอรี่แบบแห้งก็คงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากไม่ต้องเติมน้ำกลั่น สะดวก ไม่ต้องดูแลรักษามากนั้นเอง ในทางกลับกันหากเลือกใช้แบตเตอรี่แบบน้ำ จำเป็นต้องหมั่นตรวจเช็กอยู่เสมอ แต่ก็แลกมากับอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าแบบกึ่งแห้ง
- ไม่ซื้อแบตเตอรี่ที่ค้างสต๊อกนาน ๆ การซื้อทุกครั้งควรต้องดูวัน เดือน ปี ที่ผลิต หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขาย เพื่อที่จะได้แบตเตอรี่ที่ไม่เก่าจนเกินไป อาจทำให้แบตเตอรี่รถ อายุการใช้งานสั้นเกินไป
วิธีดูอายุแบตเตอรี่รถยนต์นั้น ที่ตัวแบตเตอรี่จะมีการระบุวันเดือน ปี ที่ผลิตเหมือนสินค้าอื่น ๆ ทั่วไปในท้องตลาดนั้นเอง ส่วนวิธีการดูไฟในแบตเตอรี่นั้น สามารถจับสังเกตได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ โดยให้สังเกตจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ในตอนเช้า หากแบตเตอรี่มีไฟปกติ กำลังไฟในการที่จะไปหมุนไดร์สตาร์ทก็จะมีมาก ซึ่งทำให้รถสตาร์ทแบบง่าย ๆ แต่หากแบตเตอรี่อ่อนกำลังไฟจะน้อย ทำให้การสตาร์ทรถนานกว่าปกติ เพียงเท่านี้ก็สามารถรับรู้ได้แล้วว่า
นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังมีตาแมวให้ดูไฟอีกด้วย ซึ่งมีวิธีการดูดังต่อไปนี้
- สีเขียว หมายถึง ไฟเต็ม
- สีส้ม หมายถึง ควรเติมน้ำกลั่น
- สีขาว หมายถึง ควรชาร์จไฟ
แบตเตอรี่แต่ละยี่ห้อจะมีสีของตาแมวที่แตกต่างกันไป แต่จะมีวิธีการดูแปะอธิบายอยู่ข้าง ๆ ตาแมวนั้นเอง ทั้งนี้ตาแมวของแบตเตอรี่จะสามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพเต็ม ๆ จากแบตเตอรี่น้ำเพียงเท่านั้น เพราะสามารถเติมน้ำกลั่นได้ แต่หากเป็นแบตเตอรี่แห้งแล้ว ไม่สามารถเติมน้ำกลั่นได้นั้นเอง ซึ่งถือว่าเป็นข้อด้อยของแบตเตอรี่น้ำ
ทั้งนี้ตาแมวของแบตเตอรี่ไม่อาจเชื่อได้ 100% แต่พอที่จะช่วยให้คุณสังเกตความผิดปกติของแบตเตอรี่ได้อยู่เล็กน้อย
สุดท้ายนี้อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่มีระยะเวลาที่ตายตัว ทุก ๆ องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่มีผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ทุกอย่าง ซึ่งตามมาตรฐานทั่วไปแล้วอายุของแบตเตอรี่รถยนต์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 2 – 3 ปีเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นคือกำไรของผู้ใช้งานก็ว่าได้
หากได้อ่านมาถึงตรงจุดนี้คงน่าจะมีแนวทางในการดูแลแบตเตอรี่อยู่บางอย่างแน่นอน นอกจากนี้แบตเตอรี่ลูกเก่าสามารถนำไปเทิร์นเป็นส่วนลดให้แก่แบตเตอรี่ลูกใหม่ได้อีกด้วย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorodnissan.com/